ซึ่งนักเรียนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรื่องนี้ง่าย ไม่ยาก โดยเฉพาะรูปสี่เหลี่ยมที่มีความซับซ้อนครูยิ่งต้องทำให้นักเรียนเข้าใจที่มาของการหาพื้นที่ และความสัมพันธ์ของความยาวของเส้นต่างๆกับพื้นที่ เช่น
การหาพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมคางหมู เกิดจากการนำรูปสี่เหลี่ยมคางหมูที่มีขนาดเท่ากันมาต่อกัน จะทำให้ได้สี่เหลี่ยมด้านขนาน แล้วจึงหาพื้นที่สี่เหลี่ยมด้านขนานนั้น แล้วนำมาหารด้วย 2 ก็จะได้ขนาดพื้นที่ของสี่เหลี่ยมคางหมูดังกล่าวได้นั่นเอง และทำให้นักเรียนทราบที่มาของสูตรการหาพื้นที่ของสี่เหลี่ยมคางหมูด้วยตนเองคือ ความสูง คูณ ผลบวกของด้านคูขนาน ทั้งหมดหารด้วย 2
การหาพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว สามารถสื่อได้จากภาพที่ไม่มีความซับซ้อนซึ่งทำให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายๆ ทำให้ทราบถึงที่มาของสูตรการหาพื้นที่ได้ด้วยตนเองคือ ผลคูณของเส้นทะแยงมุม หารด้วย 2
การหาพื้นที่ของรูสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่า ก็สามารถอธิบายได้ด้วยภาพที่ไม่ยาก เช่นมองให้เป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูป และหาพื้นที่ตามปกติ คือ 1/2 X ความยาวของฐาน X ความสูง แล้วนำผลที่ได้มาบวกกัน
หรือนำเส้นทะแยงมุม X ผลบวกของเส้นที่ตั้งฉาก ทั้งหมดหารด้วย 2 ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกทำในแบบที่ตนเองถนัดได้ โดยที่นักเรียนส่วนใหญ่บอกว่า แบบที่ 2 เร็วกว่า และชอบแบบที่ 2 มากกว่า
นอกจากนี้ครูได้สอดแทรกโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับรูปสี่เหลี่ยมเข้าไปด้วยดังตัวอย่างจากรูปด้านล่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น